

ฮ่องกง ดินแดนแห่งความตื่นตาตรึงใจ สัมผัสความผสมผสานที่กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและความทันสมัยของเมืองแห่งสีสันและความคึกคัก ที่ซึ่งตะวันออกและตะวันตกมาบรรจบกันอย่างลงตัว เพลิดเพลินไปกับการจับจ่ายในช้อปปิ้งมอลล์สุดหรูไปจนถึงตลาดกลางแจ้ง อิ่มอร่อยไปกับอาหารนานาชาติรสเลิศหรืออาหารพื้นเมืองสุดวิเศษ เปิดโลกทัศน์ตระการตากับความงามอันน่าพิศวงของเส้นขอบฟ้า ล่องเรือข้ามอ่าววิคตอเรียหรือปีนเขาชื่นชมทัศนียภาพอันงดงาม สัมผัสความหลากหลายและความนำสมัยของฮ่องกง แก่นแท้ของเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ แล้วคุณจะรักฮ่องกง!

ข้อมูลทั่วไป
ที่ตั้ง
เกาะฮ่องกงเป็นดินแดนตอนปลายสุดทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน ติดกับมณฑลกวางตุ้ง ประกอบด้วยเกาะฮ่องกง นิวเทอร์ริทอรีส์ เกาลูน และเกาะเล็กๆ อีก 235 เกาะ มีพื้นที่โดยรวม 1,091 ตารางกิโลเมตร
ประชากรและภาษา
มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 6.4 ล้านคน ประมาณร้อยละ 96 เป็นคนจีน ภาษาจีนและอังกฤษเป็นภาษาราชการ ภาษาจีนกลางตุ้งเป็นภาษาที่ใช้กันมากที่สุด แต่หลังจากวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 ได้มีการบรรจุภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) ในแบบเรียนเพิ่มขึ้นด้วย
Note : เจ้าหน้าที่ร้านค้าและโรงแรม จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี
ฮ่องกงอยู่ในเขตกึ่งร้อนชื้น นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยือนได้ตลอดทั้งปี
• ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-กลางพฤษภาคม) อุณหภูมิประมาณ 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิและความชื้นสูงขึ้นเสื้อผ้าแนะนำให้เตรียมแจ็คเก็ตหรือสเว็ทเตอร์ ไม่ต้องหนามากไปด้วย
• ฤดูร้อน (ปลายพฤษภาคม - กลางกันยายน) อุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซสเซียส
อากาศร้อนชื้น อาจจะมีฝนบ้าง ควรเตรียมเสื้อเชิ๊ต ชุดผ้าฝ้าย และร่มเมื่อออกนอกอาคารด้วย
• ฤดูใบไม้ร่วง (ปลายกันยายน-ต้นธันวาคม) อุณหภูมิประมาณ 23 องศาเซสเซียส
ช่วงนี้อุณหภูมิและความชื้นลดลง ท้องฟ้าแจ่มใสตลอดวัน ควรเตรียมเสื้อเชิ๊ต สเวทเตอร์และแจ็คเก็ตบางๆ ไปด้วย
• ฤดูหนาว (ปลายธันวาคม - กุมภาพันธ์) อุณหภูมิประมาณ 17 องศาเซสเซียส
อากาศหนาวเย็นและความชื้นต่ำ ควรสวมเสื้อกันหนาว เสื้อโอเวอร์โค้ท
ระเบียบการเข้าเมือง
นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องมีวีซ่านาน 3 เดือน ซึ่งแต่เดิม สามารถอยู่ได้เพียง 14 วัน ก่อนเข้าถึงฮ่องกงจะได้รับแบบฟอร์มการเข้าเมือง ซึ่งต้องกรอกให้สมบูรณ์ และแนบไปกับพาสปอร์ตแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
ข้ออนุญาตของศุลกากร
นักท่องเที่ยวสามารถนำสิ่งต่อไปนี้เข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องเสียภาษี
• ยาสูบ - บุหรี่ 200 มวน หรือซิการ์ 50 มวน หรือยาสูบ 250 กรัม
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-ไวน์ หรือเหล้าขวดขนาด 1 ลิตร
• งาช้าง รัฐบาลฮ่องกงมีข้อบังคับเข้มงวดมากในเรื่องการนำเข้าและส่งออกงาช้าง ทั้งที่ยังไม่ได้แปรสภาพและที่แปรสภาพแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนมากหรือน้อยก็ตาม จึงควรสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนที่จะนำเข้าหรือออกงาช้าง
การขับขี่
ท่านที่มีใบขับขี่นานาชาติอยู่แล้ว สามารถขับรถในฮ่องกงได้ไม่เกิน 12 เดือน โดยต้องเป็นรถที่มีประกันภัยบุคคลที่ 3 และต้องพกพาใบขับขี่พร้อมบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายติดตัวเสมอ
ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์
สำหรับท่านที่ต้องการนำเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ ติดตัวไปใช้ ที่ฮ่องกงใช้กระแสไฟฟ้า 200/220 โวลท์ ความถี่ 50 เฮิร์ตซ์ หากท่านพักที่โรงแรม โดยส่วนใหญ่เกือบทุกแห่ง จะมีเครื่องแปลงไฟฟ้าไว้ให้บริการ สามารถขอได้
น้ำในฮ่องกงมาจากระบบประปาของรัฐบาลเอง มีความสะอาดตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ หากยังไม่มั่นใจ น้ำดื่มบรรจุขวดก็มีจำหน่ายทั่วไป หาซื้อได้ไม่ยาก
ส่วนโทรศัพท์นั้น ที่ฮ่องกงเป็นระบบที่ทันสมัย การโทรศัพท์ภายในฮ่องกงเอง (local call) ไม่เสียค่าบริการ และร้านค้า โรงแรมส่วนใหญ่มีโทรศัพท์ไว้บริการอยู่แล้ว แต่ควรสอบถามจากทางโรงแรมก่อนว่าคิดว่าโทรฯ และชาร์จอย่างไร ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะยังไม่ทัน shopping กลับต้องจ่ายค่าโทรศัพท์หมดตัวเสียก่อน อันนี้ต้องระวัง เครื่องโทรศัพท์สาธารณะระบบ IDD สามารถโทรทางไกลออกนอกประเทศได้ มีทั้งแบบหยอดเหรียญและใช้บัตร ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านค้า และศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยว (HKTA) รวมถึงร้านขายสินค้าที่ระลึกทั่วไป สำหรับการโทรกลับเมืองไทยแบบอัตโนมัติ กด 00 + 66 + รหัสจังหวัด + เบอร์โทรศัพท์
ธนาคาร & สกุลเงิน
ธนาคาร
ธนาคารส่วนใหญ่เปิดทำการวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 16.30 น. และวันเสาร์ ตั้งแต่ 9.00 น. ถึง 12.30 น. ปิดทำการในวันอาทิตย์และวันหยุดราชการ ธนาคารและสาขาบางแห่งอาจเปิดให้บริการนานกว่านี้ บริการทางธนาคารบางประเภทอาจงด 1 ชั่วโมงก่อนปิดทำการ เครื่องเบิกถอนเงินสด (ATMs) พบได้เกือบทุกที่และเครื่อง “Electronic Money” ของ HSBC ให้บริการถอนเงินสด (HK$) ตลอด 24 ชั่วโมง แก่ผู้ถือบัตรวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด ส่วนผู้ถือบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส สามารถใช้เครื่องเอทีเอ็มของ Jetco และสามารถถอนเงินสกุลท้องถิ่นและเช็คเดินทางได้ที่เครื่องเอทีเอ็ม Express Cash ในเมือง
สกุลเงิน
สกุลเงินที่ใช้ได้ตามกฎหมายคือเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HK$) 1 ดอลลาร์มี 100 เซ็นต์ สำหรับเหรียญ 10 เซนต์ 20 เซ็นต์และ 50 เซ็นต์ ซึ่งออกโดยรัฐบาลมีสีบรอนซ์ เหรียญ 1HK$, 2 HK$, และ 5HK$ มีสีเงิน ส่วนเหรียญนิคเกิลและบรอนซ์ใช้กับเหรียญ 10 HK$ สำหรับธนบัตรที่ออกโดย HSBC และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด มี 10 HK$, 20 HK$, 50 HK$, 100 HK$, 500 HK$ และ 1,000 HK$ ส่วนแบงก์ออฟไชน่าออกธนบัตรทุกประเภท ยกเว้น 10 HK$
ตั้งแต่กลางปี 1980 ค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงถูกตรึงไว้ที่ 7.8 HK$ ต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐฯ และลดหลั่นกันไปกับอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลอื่น อย่างไรก็ตาม อัตราตลาดแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีการแกว่งขึ้นลงบ้าง ธนาคารและผู้รับแลกเปลี่ยนเงินจะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น เช่นเดียวกับโรงแรมและห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ทั้งหลายซึ่งมีบริการแลกเปลี่ยนเงินตราให้กับลูกค้า อัตราแลกเปลี่ยนสำหรับเงินสดและเช็คเดินทางจะแตกต่างกันไปเล็กน้อยเหมือนกับเมืองอื่น ๆ และไม่สามารถแลกเหรียญได้
ตามกฎหมาย ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต้องติดป้ายแสดงอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิให้ชัดเจน นักท่องเที่ยวควรตรวจสอบและคำนวณค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายเพิ่มสำหรับการแลกเช็คเดินทางก่อนแลกเงิน และตามกฎหมายต้องมีใบเสร็จรับเงินออกให้ ไม่มีระเบียบใด ๆ เกี่ยวกับการถือสกุลเงินต่าง ๆ เข้าและออกจากฮ่องกง
ข้อมูลสนามบิน
สนามบินนานาชาติฮ่องกง
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนฮ่องกงจะได้รับการรับการบริการจากสนามบินที่ทันสมัยที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง สนามบินนานาชาติฮ่องกงอยู่ที่เช็คแลปก๊ก บนเกาะลันเตา เปรียบเสมือนประตูใหญ่สู่เอเชีย
ทางเลือกในการคมนาคมขนส่งมีหลากหลายเพียบพร้อมสำหรับผู้ที่เดินทางระหว่างสนามบินนานาชาติฮ่องกงกับเกาะฮ่องกง เกาลูน นิวเทอร์ริทอรี่ส์ และเกาะลันเตา ทั้งบริการรถไฟ รถประจำทาง เรือเฟอร์รี่ และแท็กซี่
บริการรถไฟด่วนสายสนามบิน (Airport Express-AEL) ดำเนินการโดยบริษัทเอ็มทีอาร์ คอร์ปอเรชั่น รองรับผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยังสถานีฮ่องกง ในเขตเซ็นทรัล ผ่านสถานีซิงยี่ และเกาลูน ภายในเวลา 23 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียวจากสนามบินไปยังเกาะฮ่องกงราคา 100 HK$ รถไฟจะวิ่งทุก ๆ 10 นาที ตั้งแต่เวลา 5.50 น. – 1.00 น. ทุกวัน และมีบริการรถรับ-ส่งฟรีไปยังโรงแรมต่าง ๆ สำหรับผู้ใช้บริการ AEL
มีบริการรถประจำทางแฟรนไชส์กว่า 30 สาย ที่ให้บริการจากสนามบิน รวมทั้งบริการรถประจำทางปรับอากาศ 9 สาย ที่จะหยุดจอดน้อยกว่ารถประจำทางทั่วไป ค่าโดยสารของรถประจำทางปรับอากาศอยู่ระหว่าง 14 HK$ ถึง 45HK$ เรือเฟอร์รี่วิ่งระหว่างท่าเรือเช็ค แล็ป ก๊ก กับท่าเรือเทิน มุน ในเขตนิวเทอร์ริทอรี่ส์บริการตั้งแต่เวลา 6.00 น. – 23.00 น. ทุกวัน ส่วนแท็กซี่ไปยังทุกสถานที่ในฮ่องกงสามารถเรียกใช้บริการได้จากจุดรับ-ส่งรถแท็กซี่ เส้นทางปกติจากสนามบินถึงเขตเซ็นทรัลราคาประมาณ 330 HK$ และถึงจิมซาโจ่ยประมาณ 270 HK$
ผู้โดยสารที่อายุตั้งแต่ 12 ปี ต้องจ่ายค่าภาษีขาออกสนามบิน (Air Passthaier Departure Tax – APDT) ราคา 80 HK$ (ซึ่งปกติจะรวมอยู่กับค่าตั๋วเครื่องบิน) ผู้โดยสารที่เดินทางไปและกลับในวันเดียวกัน จะได้รับการยกเว้นการจ่ายภาษีนี้
ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2545 เป็นต้นมา มีการเรียกเก็บค่าเซอร์ชาร์จ ความปลอดภัยสนามบิน (Airport Security Surcharge – ASS) เพิ่มอีก 13 HK$ จากผู้โดยสารที่เดินทางออกจากสนามบินนานาชาติฮ่องกง เพื่อการรักษามาตรฐานความมั่นคง ปลอดภัยและบริการแก่ผู้โดยสาร ค่าบริการนี้เก็บเพิ่มจากค่าธรรมเนียมความปลอดภัย 20 HK$ ที่ปัจจุบันสายการบินต่าง ๆ เรียกเก็บจากผู้โดยสารในนามของการท่าอากาศยานฮ่องกง ดังนั้นผู้โดยสารจะต้องชำระค่าธรรมเนียมความปลอดภัยของสนามบินรวม 33 HK$
การเดินทาง
ในทางภูมิศาสตร์ ฮ่องกงมีขนาดเล็กและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ราคาประหยัดและให้บริการเป็นประจำที่สุดในโลก
เส้นทางคมนาคมที่ต่อเชื่อมกับระบบรถไฟใต้ดิน (Mass Transit Railway – MTR) และเส้นทางรถประจำทางต่าง ๆ ได้แก่เครือข่ายเส้นทางรถไฟสายเกาลูน-แคนตัน เรลเวย์ (Kowloon Canton Railway – KCR) และรถไฟสายสั้น (Light Rail – LR) รถรางและเรือเฟอร์รี่ มีแท็กซี่วิ่งพร้อมให้บริการและการเดินทางทั่วเมืองตามปกติจะรวดเร็วและสะดวกมาก อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเมืองใหญ่อื่น ๆ ควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วน (8.00 น. – 10.00 น. และ 5.00 น. – 19.00 น.)
จัดกระเป๋าเดินทาง
ด้วยสภาพอากาศกึ่งเขตร้อนของฮ่องกง จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อผ้าสำหรับอากาศหนาวไปตลอดปี เสื้อผ้าฝ้ายสวมใส่สบายเหมาะสมกับการเที่ยวที่สุด ยกเว้นช่วงกลางเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เมื่อปรอทอาจลดระดับลงถึง 10oC (50oF) ทว่าในช่วงฤดูร้อน ควรติดเสื้อสเวตเตอร์บางไปด้วย เนื่องจากตามภัตตาคารและโรงภาพยนตร์มักจะปรับเครื่องอากาศไว้เย็นจัด ฝนอาจตกในช่วงฤดูฝน (ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน) ดังนั้น จึงควรพกเสื้อกันฝนไปด้วยในช่วงนี้
สิ่งที่จำเป็นต้องนำติดตัวไปนั้นขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่จะทำให้นครแห่งชีวิต ขอแนะนำให้เตรียมชุดว่ายน้ำสำหรับการเที่ยวชายหาด รองเท้าส้นเตี้ยสำหรับการเดินเที่ยว และชุดลำลองสำหรับการดินเนอร์ ควรสวมสูทอย่างเป็นทางการเมื่อติดต่อธุรกิจ สำหรับผู้ที่เตรียมออกตระเวณช้อปปิ้งมอลล์ของเหล่าดีไซน์เนอร์และตลาดกลางคืนอันมีสีสัน ขอแนะนำให้เหลือที่ว่างในกระเป๋าไว้มาก ๆ เนื่องจากฮ่องกงนั้นขึ้นชื่อว่าสวรรค์ของนักช้อปโดยแท้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น