ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เที่ยวมาเก๊า

คราวที่แล้วพาไปเที่ยวฮ่องกงมาแล้ว คราวนี้ก็ ต้องข้ามฝั่งไปที่ มาเก๊า กันเลย

หลายคนคงรู้แล้วว่า มาเก๊ากับฮ่องกงนั้น ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ซึ่งสามารถ เดินทางไปมาหากันได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง โดยมากแล้ว คนที่ไปฮ่องกงมักจะแวะไปเยี่ยมเยือนมาเก๊า เป็นของแถม (แต่ไม่คิดว่าเป็นของแถมนะ เพราะว่า มาเก๊าเองก็เป็น Major place ของการท่องเที่ยวเหมือนกาน) รู้แล้วก็เลยเอาข้อมูลมาฝาก


เขตปกครองพิเศษมาเก๊า
มาเก๊าตั้งอยู่ในเขตมณฑลกวางตุ้ง บนชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของสามเหลี่ยม ปากแม่น้ำเพิร์ล มีอาณาเขตติดกับตำบลกงเป่ย หรือขงปั๊กของจีน (Gongbei)

มีเนื้อที่ทั้งหมด 29.2 ตารางกิโลเมตร ประกอบไปด้วยคาบสมุทรมาเก๊ามีพื้นที่ 9.3 ตารางกิโลเมตรซึ่งติดต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่, เกาะไทปา(Taipa) 6.7 ตารางกิโลเมตร เกาะโคโลอาน(Coloane) 7.6 ตารางกิโลเมตร และโคไท ”COTAI” พื้นที่ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่จากการถมทะเลอีก 5.6 ตารางกิโลเมตร



The Venetion Resort เดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า เป็นชื่อโรงแรมหรูในมาเก๊า ภายในมีห้องพักรับรองหลายพันห้อง มีห้องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ให้บริก

าร และมีบ่อนคาสิโนที่นักพนันและนักท่องเที่ยวระดับมาเล่นกันเพื่อความสนุกสนาน มากกว่าเล่นเพื่อผลาญทรัพย์เชิงอบายมุข ตลอดจนมีแหล่งชอปปิ้งระดับโลกรวมอยู่ในที่เดียวกัน และยังมีเรือกอนโดลาบริการสำหรับผู้ต้องการล่องเรือในบรรยากาศเวนิสจำลอง ด้วยเช่นกัน

จัตุรัสเซนาโด้
กลายเป็นศูนย์รวมของชาวเมืองมานับศตวรรษ และยังคงเป็นสถานที่จัดงานเฉลิมฉลองยอดนิยมทั้งหลาย ตั้งอยู่ใกล้กับอาคารสภาสูงเดิมและวัดซำไก วุยคุน ทั้งบ่งถึงความร่วมมืออย่างแข็งขันของชุมชนชาวจีนท้องถิ่น ที่มีต่องานราชการเมือง ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างเด่นชัด ที่แสดงถึงการคลุกเคล้าทางวัฒนธรรมอันหลากหลายของชาวมาเก๊า โดยอาคารที่รายรอบจัตุรัสเซนาโด้ ล้วนเป็นอาคารสไตล์นีโอคลาสสิกที่ทาสีพาสเทลอันอ่อนโยน สะท้อนถึงบรรยากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน



ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล

ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอลหมายถึงฟาซาดด้านหน้าของโบสถ์มาแตร์ เดอี (Church of Mater Dei) ที่สร้างขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1602-1640 แต่โดนพิษไฟไหม้ในปี 1835 ทำให้วิทยาลัยเซนต์ปอลที่อยู่ติดกับโบสถ์ ก็กลายเป็นซากด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว โบสถ์มาแตร์ เดอีเดิม วิทยาลัยเซนต์ปอล (St. Paul’s College) และป้อมปราการ (Mount Fortress) เป็นสิ่งปลูกสร้างของพระนิกายเยซูอิต และตั้งใจก่อร่างให้เป็นดั่งอะโครโปลิสแห่งมาเก๊า ซากโบราณสถานที่ยังหลงเหลืออยู่ของวิทยาลัยเซนต์ปอล คือประจักษ์พยานการก่อตั้งมหาวิทยาลัยของตะวันตกใน ภูมิภาคตะวันออกไกล และได้รับการวางหลักสูตรการศึกษาไว้อย่างพิถีพิถัน ขณะที่ซากประตูโบสถ์เซนต์ปอล ในปัจจุบันถูกมาเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า


อาหารการกิน
มาเก๊า เป็นสวรรค์ของนักกิน ไม่แพ้ที่ใดในโลก ด้วยมีอาหารหลากหลายชนิด และหลากหลายชาติให้ได้ลิ้มรสกัน ที่พลาดไม่ได้เมื่อไปถึงมาเก๊า ก็ต้องเป็นอาหารประจำชาติ ที่เรียกกันว่า “อาหารแมคกันนีส” และ “อาหารโปรตุเกส” ซึ่งไม่สามารถหาทานได้ในเมืองไทยอย่างแน่นอน
“อาหารแมคกันนีส” อาหารประจำชาติของมาเก๊าเป็นอาหารที่ผสมผสานเอารสชาติและเครื่องปรุงจากนานา ชาติ ทั้ง ยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา และ เอเชียมาไว้ด้วยกันในแต่ละจาน ตกแต่งสไตล์ยุโรป เพิ่มเสน่ห์และรสชาติในการรับประทานด้วยไวน์ชั้นเลิศของโปรตุเกสก็จะได้ความ อร่อยมากขึ้น การปรุงอาหารในครัวแมกกานีส ยังเป็นการนำกรรมวิธีการปรุงแบบตะวันตก (อบ ย่าง สตูว์ ตุ๋น) มาเข้าคู่กับเครื่องปรุงของเอเชีย เช่น ผงกระหรี่ กะปิ กุนเชียง และต้นหอม หรือไม่ก็สลับกันโดยการนำเอาการปรุงแบบฉบับของจีน เช่น ผัดไฟแรง ทอด นึ่ง มาผสมกับเครื่องปรุงของยุโรป เช่น ปลาคอด น้ำมันมะกอก มะกอกดอง เนื้อสับ มันฝรั่ง และไส้กรอกหมูเค็มของโปรตุเกสที่เรียกกันว่าโซริโซ่ (Chorizo)
อาหารโปรตุเกส เป็นอาหารยุโรปใต้ที่มีชายฝั่งติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีส่วนประกอบหลัก คือ อาหารทะเลทุกประเภท เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก ปรุงแบบง่ายๆ เช่น ย่างถ่าน ตุ๋น นึ่งกับสมุนไพรและเครื่องปรุงที่หาได้ในภาคใต้ของยุโรป เช่น น้ำมันมะกอก เกลือทะเล น้ำส้มไวน์ขาว ผักชี และกระเทียม เป็นหลัก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น